วันพุธที่ 5 ตุลาคม พ.ศ. 2554

ปลูกจิตวิญญาณความเป็นครูกตเวที


สวดมนต์-แผ่เมตตา


อะระหัง สัมมาสัมพุทโธ ภะคะวา
พุทธัง ภะคะวันตัง อะภิวาเทมิ  (กราบ)
สวากขาโต ภะคะวะตา ธัมโม
ธัมมัง นะมัสสามิ        (กราบ)
สุปะฏิปันโน ภะคะวะโต สาวะกะสังโฆ
สังฆัง นะมามิ   (กราบ)


คาถาแผ่เมตตา(แผ่ให้สรรพสัตว์ทั้งหลาย) 

สัพเพ สัตตา อะเวรา โหนตุ 
อัพพะยาปัชฌา โหนตุ 
อะนีฆา โหนตุ 
สุขี อัตตานัง ปะริหะรันตุ 
สัตว์ทั้งหลายทั้งปวง ที่เป็นเพื่อนทุกข์ เกิด แก่ เจ็บ ตาย ด้วยกันทั้งสิ้น 
จงเป็นสุขเป็นสุขเถิด อย่าได้มีเวรแก่กันและกันเลย 
จงเป็นสุขเป็นสุขเถิด อย่าได้เบียดเบียนซึ่งกันและกันเลย 
จงเป็นสุขเป็นสุขเถิด อย่าได้มีความทุกข์กายทุกข์ใจเลย 
จงมีความสุขกาย สุขใจ รักษาตนให้พ้นจากทุกข์ภัยทั้งสิ้นเทอญ



เพลง ค่าน้ำนม



แม่นี้มีบุญคุณอันใหญ่หลวง
ที่เฝ้าหวงห่วงลูกแต่หลังเมื่อยังนอนเปล
แม่เราเฝ้าโอ้ละเห่
กล่อมลูกน้อยนอนเปลไม่ห่างหันเห ไปจนไกล

แต่เล็กจนโตโอ้แม่ถนอม
แม่ผ่ายผอมย่อมเกิดจากรักลูกปักดวงใจ
เติบ โตโอ้เล็กจนใหญ่
นี่แหละหนาอะไร มิใช่ใดหนาเพราะค่าน้ำนม

* ควร คิดพินิจให้ดี
ค่าน้ำนมแม่นี้ จะมีอะไรเหมาะสม
โอ้ว่าแม่จ๋า ลูกคิดถึงค่าน้ำนม
เลือดในอกผสม กลั่นเป็นน้ำนมให้ลูกดื่มกิน

** ค่าน้ำนมควรชวนให้ลูกฝัง
แต่เมื่อหลังเปรียบดังผืนฟ้าหนักกว่าแผ่นดิน
บวช เรียนพากเพียรจนสิ้น
หยดหนึ่งน้ำนมกิน ทดแทนไม่สิ้นพระคุณแม่เอย

(*,**)





เพลง พระคุณที่สาม

ครูบาอาจารย์ที่ท่านประทานความรู้มาให้

อบรมจิตใจให้รู้ผิดชอบชั่วดี

ก่อนจะนอนสวดมนต์อ้อนวอนทุกที

ขอกุศลบุญบารมีส่งเสริมครูนี้ให้ร่มเย็น

ครูมีบุญคุณจึงขอเทิดทูลเอาไว้เหนือเกล้า

ท่านสอนพวกเราอบรมพวกเราไม่เว้น

ท่านอุทิศไม่คิดถึงความยากเย็น

สอนจนรู้จัดเจน เฝ้าเน้น เฝ้าแนะมิได้อำพราง

* พระคุณที่สาม งดงามแจ่มใส แต่ว่าใครหนอใคร

เปรียบเปรยครูไว้ว่าเป็นเรือจ้าง

พลาดจากความจริง ยิ่งเห็นว่าผิดทาง

มีใครไหนบ้างแนะนำแนวทางอย่างครู

บุญเคยทำมาแต่งปางใด ใดเรายกให้ท่าน

ตั้งใจกราบกราน ระลึกคุณท่านกตัญญู

โรคและภัยอย่าหมายแผ้วพานคุณครู

ขอกุศลผลบุญค้ำชู ให้ครูเป็นสุขชั่วนิรันดร์...





แม่พิมพ์ของชาติ


แสงเรือง ๆ ที่ส่องประเทืองอยู่ทั่วเมืองไทย
คือแม่พิมพ์อันน้อยใหญ่ โอ้ครูไทยในแดนแหลมทอง
เหนื่อยยากอย่างไร ไม่เคยบ่นไปให้ใครเขามอง
ครูนั้นยังลำพอง ในเกียรติของตนเสมอมา

ที่ทำงานช่างสุดกันดารในป่าดงไพร
ถึงจะไกลก็เหมือนใกล้ เร่งรุดไปให้ทันเวลา
กลับบ้านไม่ทันบางวันต้องไปอาศัยหลวงตา
ครอบครัวคอยท่า ไม่รู้ว่าไปอยู่ไหน

ถึงโรงเรียนก็เจียนจะสายจวนได้เวลา
เห็นศิษย์รออยู่พร้อมหน้า ต้องรีบมาทำการสอน
ไม่มีเวลาที่จะได้มาหยุดพอพักผ่อน
โรงเรียนในดงป่าดอน ให้โหยอ่อนสะท้อนอุรา

ชื่อของครูฟังดูก็รู้ชวนชื่นใจ งานที่ทำก็ยิ่งใหญ่
สร้างชาติไทยให้วัฒนา
ฐานะของครูใคร ๆ ก็รู้ว่าด้อยหนักหนา
ยังสู้ทนอุตส่าห์สั่งสอนศิษย์มาเป็นหลายปี

นี่แหละครูที่ให้ความรู้อยู่รอบเมืองไทย
หวังสิ่งเดียวคือขอให้เด็กของไทยในผืนธานี
ได้มีความรู้เพื่อช่วยเชิดชูไทยให้ผ่องศรี
ครูก็ภูมิใจที่สมความเหนื่อยยากตรากตรำมา...